มนุษย์ครึ่งทาง วรรณกรรมดิสโทเปียในยุคหลังอารยธรรมล่มสลาย อันแสดงให้เห็นถึงแก่นของความเป็นมนุษย์ที่แท้ ที่ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ใด ยังคงสัญชาตญาณแห่งความเป็นสัตว์และใช้ความคิดในการเอาชนะธรรมชาติ มนุษย์เป็นเช่นนั้นเสมอมา แม้กระทั่งในวันที่โลกถึงกาลวิบัติ มนุษยชาติใกล้ถึงคราวสูญพันธุ์ มนุษย์ก็ยังสามารถค้นพบวิถีชีวิตใหม่ที่อากาศหายใจมีค่าสูงกว่าเงิน และใช้หลักการเดิมเพื่อดำรงร่วมกัน นั่นคือระบบชนชั้นการปกครอง และทรัพยากรที่สำคัญที่สุดในวันโลกาวินาศคือ ‘ทรัพยากรมนุษย์’ ชนชั้นปกครองผู้อยู่ชั้นสูงสุดเหนือพลเมืองทั้งปวง ต้องบริหารทรัพยากรมนุษย์ที่มีอยู่จำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุดเท่าที่ความสามารถและมันสมองของพวกเขาจะรีดเค้นเอาเลือดเนื้อหยาดเหงื่อแรงงานมาใช้เต็มที่ ไม่ใช่เพียงเพื่อตัวเองเท่านั้น แต่เพื่อความอยู่รอดของมนุษยชาติด้วย โลกของ มนุษย์ครึ่งทาง เกิดขึ้นถัดจากยุคของเราไปอีกราวสี่ร้อยปีข้างหน้า เป็นช่วงเวลาที่อารยธรรมของเราสาบสูญและล่มสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอยจากผลของมหาสงครามล้างโลก เช่นเดียวกับออกซิเจนที่เคยมี มันก็หายไปด้วยเช่นกัน ทางเดียวที่จะปอดจะได้รับออกซิเจน คือต้องยอมศิโรราบต่อรัฐภายใต้การนำของชนชั้นปกครอง ยี่สิบหก พลเมืองชั้นล่างผู้หนึ่ง ซึ่งก็เหมือน ๆ กับพลเมืองชั้นล่างอื่น ๆ ต้องใช้แรงงานแลกกับออกซิเจนเพื่อให้อยู่รอดไปวัน ๆ เพื่อตัวเขาเองและเพื่อลูกชายสุดที่รักที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว ยี่สิบหก และพลเมืองทุกคนรู้ซึ้งถึงชีวิตที่ไร้ค่าของตนเอง พวกเขาเป็นเพียงมนุษย์ครึ่งทางที่ใช้ชีวิตอย่างไร้เป้าหมาย แกล้งทำเป็นไม่ตระหนัก แกล้งไม่รับรู้ถึงความเป็นมนุษย์ในตัวเอง แล้ววันหนึ่ง ยี่สิบหก ก็ได้พบชายชราอดีตนักเก็บศพ ผู้เข้ามากระชาก ยี่สิบหก ให้ตื่นจากความฝันอันหลอกลวงของเหล่าชนชั้นปกครอง